อิตาลีเพิ่มคุมเข้มทางสังคม หลังติด’โควิด’เป็นสถิติใหม่!

รัฐบาลอิตาลียกระดับมาตรการทางสังคมขึ้นอีกขั้น หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่วันเดียวมากกว่า 11,000 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่านายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอิตาลีกลับมาทวีความรุนแรง การพบผู้ป่วยใหม่รายวันกลับมาเพิ่มขึ้นแบบอัตราเร่ง รัฐบาลกำลังพยายามดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับมาล็อกดาวน์ทั้งประเทศเป็นครั้งที่สอง
 
นอกเหนือจากมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในสถานที่สาธารณะ ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2564 “เป็นอย่างน้อย” พร้อมบทลงโทษด้วยการปรับเป็นเงินสูงสุด 1,000 ยูโร ( ราว 36,518.43 บาท ) นั้น นับตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. เป็นต้นไป ร้านอาหารและบาร์ทุกแห่งในอิตาลีต้องปิดให้บริการก่อนเที่ยงคืน โดยหลังเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละวัน ต้องจำกัดจำนวนการนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันให้ไม่เกิน 6 คน แต่หากร้านใดไม่สามารถให้บริการลักษณะดังกล่าวได้ ให้ปิดตั้งแต่ 18.00 น.
 
ขณะที่จะมีการจัดสรรเวลาเข้าและเลิกเรียนของโรงเรียนแต่ละแห่งให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อลดความแออัดภายในสถานศึกษาและระบบขนส่งสาธารณะ ด้านการจัดงานเฉลิมฉลอง กิจกรรมและงานแสดงสินค้าให้ระงับไว้ก่อน ในเวลาเดียวกัน บริษัทเอกชนควรเพิ่มการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ให้สามารถทำจากที่บ้านได้มากขึ้น
 
อนึ่ง รัฐบาลกลางมอบอำนาจให้รัฐบาลและเทศบาลท้องถิ่น สามารถสั่งปิดพื้นที่สาธารณะได้หลังเวลา 21.00 น. ของแต่ละวัน การกำหนดเวลาเปิดปิดสถานประกอบการ และสามารถเพิ่มความเข้มงวดของการรวมกลุ่มในสถานที่สาธารณะได้มากกว่าที่ส่วนกลางกำหนด
 
ทั้งนี้ อิตาลีเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่เผชิญกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 และยังเป็นแห่งแรกในภูมิภาคที่นำมาตรการล็อกดาวน์แบบจีนมาประยุกต์ใช้ ปัจจุบันอิตาลีมีสถิติผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 414,241 คน เพิ่มขึ้น 11,705 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ รักษาหายแล้ว 251,461 คน เพิ่มขึ้น 7,131 คน และเสียชีวิตแล้ว 36,543 คน เพิ่มขึ้น 69 คน

Related posts