การดูแลรักษา สุขภาพช่องปากและฟัน ในเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน สุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากไม่ว่าจะเป็นในวัยเด็กหรือผู้ใหญ่ เพราะสุขภาพฟันต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเราใช้งานช่องปากและฟันทุกวัน ในการรับประทานอาหาร ดังนั้นการดูแลรักษาความสะอาดยิ่งต้องใส่ใจให้มากเป็นพิเศษ ยิ่งผู้ที่เข้ารับการจัดฟัน ยิ่งต้องคำนึงถึงสุขภาพช่องปากให้ดีกว่าเดิม
เนื่องจากมีเครื่องมืออยู่ภายในช่องปากจึงทำให้ความสะอาดเป็นได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เพราะทำให้ในช่องปากบางส่วน สามารถทำความสะอาดได้ยากนั่นเอง แม้กระทั่งเด็กก็ต้องได้รับการดูแลสุขภาพฟันที่ดีด้วยเช่นกัน เพราะเด็กๆมักจะชื่นชอบรับประทานขนมที่มีรสหวานและมีส่วนผสมของน้ำตาลจำนวนมาก จึงทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดฟันผุ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการสูญเสียฟัน สำหรับวันนี้คลินิก Idol Smile จะมาแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน ในเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน เพื่อให้การจัดฟันมีผลลัพธ์ที่เป็นไปตามที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เด็กๆมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่ยังเล็กๆ และยังเป็นการเพื่อปลูกฝังวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีและถูกต้องให้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีอีกด้วย
สำหรับในขั้นแรก ก่อนที่จะมาถึงวิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ในเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน ก่อนอื่นจะต้องมาทำความรู้จักในเรื่องของการจัดฟันในเด็กเสียก่อน ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น สามารถทำได้ สามารถทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6 -7 ขวบ เพราะเป็นช่วยที่เด็กจะให้ความร่วมมือในการรักษากับทันตแพทย์ เพื่อให้ทันตแพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ การจัดฟันในเด็กนั้น สามารถทำได้ในช่วงที่ฟันของเด็กๆกำลังมีการพัฒนาและมีขากรรไกรที่กำลังเจริญเติบโต นั่นหมายความว่าปัญหาบางอย่าง เช่น ฟันซ้อน จะแก้ไขได้ง่ายกว่าตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งการจัดฟันในเด็กยังช่วยในเรื่องของการปรับโครงสร้างของใบหน้า รวมไปถึงยังช่วยในเรื่องของการขึ้นของฟันแท้ให้ขึ้นมาในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาฟันตามมาในอนาคต อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในเด็กไม่สามารถแก้ไขปัญหาการจัดฟันได้ทุกแบบ แต่อาจช่วยได้ในบางกรณี ในกรณีที่มีสภาพช่องปากสองแบบที่จำเป็นต้องจัดฟันตั้งแต่เด็ก ได้แก่ ฟันสบไขว้และฟันหน้ายื่น ฟันสบไขว้อาจทำให้ขากรรไกรเจริญเติบโตไม่สมดุลกัน ส่วนฟันหน้าที่ยื่นออกมาก็อาจเสี่ยงต่อการแตกหักได้ ซึ่งหากฟันเกิดการแตกหักจะต้องทำการแก้ไขโดยทันที เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบริเวณฟันที่อยู่ข้างเคียง และไม่ให้เกิดปัญหาโรคเหงือกตามมาในอนาคต
สำหรับวิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน ในเด็กที่เข้ารับการจัดฟัน จะต้องเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากเรามีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่ยังเด็กๆ ก็จะช่วยให้เติบโตไปมีฟันที่แข็งแรง ไม่มีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปาก ในกลุ่มเด็กที่มีการติดเครื่องมือการจัดฟันหรือเหล็กจัดฟันรวมไปถึงอุปกรณ์ทางทันตกรรมชนิดอื่นๆ ที่จะต้องรักษาสุขอนามัยในช่องปากเป็นอย่างดีควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ภายในเหล็กจัดฟัน และแปรงฟันให้สะอาด และก่อนนอนทุกคืน เด็กๆ จะต้องขัดฟันและบ้วนปากด้วยฟลูออไรด์เพื่อรักษาฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ สำหรับเครื่องมือการจัดฟันอาจทำให้การทำความสะอาดช่องปากเป็นเรื่องยาก แต่ทุกคนสามารถทำได้ หากทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ 6 เดือน เพื่อทำการตรวจสุขภาพฟัน อย่างไรก็ตาม ทางคลินิก เรามีบริการจัดฟันในเด็ก โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน ผ่านการอบรมมาอย่างเฉพาะด้านในเรื่องของการทันตกรรมในเด็ก จึงมั่นใจได้ว่า บุตรหลานของท่านจะได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเป็นอย่างดี เพื่อให้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำได้อย่างเต็มที่