ซีรี่ย์ฝรั่ง White Lines ไวท์ ไลน์ ซีรีส์เรื่องใหม่ของ Netflix จากผู้สร้างทรชนคนปล้นโลก (Money Heist) เมื่อมีผู้พบศพของดีเจผู้เป็นตำนานจากเมืองแมนเชสเตอร์ 20 ปีหลังจากที่เขาหายสาบสูญไปในอิบิซ่า น้องสาวของเขาก็กลับมายังเกาะสวยแห่งนี้ในประเทศสเปนเพื่อสืบหาความจริง จนทำให้เธอหลุดเข้าไปในโลกแสงสีลีลาแดนซ์แสนเร้าใจ คำลวง การปกปิดความจริง และในที่ที่ใครๆ ก็ใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยงแห่งนี้ เธอจะได้เจอด้านมืดของตัวเอง
ซีรีส์ที่โหมประโคมอย่างหนักว่ามาจาก Álex Pina ผู้สร้างและเขียนบท Money Heist แต่แล้วกลับออกมาทิศทางตรงกันข้ามกับที่ Money Heist เคยทำไว้ได้ดีเลยในทุกแง่มุม เริ่มตั้งแต่พล็อตที่ไม่ได้แปลกใหม่หรือมีความน่าสนใจสักเท่าไหร่ เรื่องราวของผู้หญิงที่กลับมาสืบหาความจริงของพี่ชายที่ตายไป 20 ปี ตั้งแต่ตัวอย่างที่ออกมาก็ตัดสลับให้เรื่องดูเหมือนมีอะไรมากมายดูลึกลับชวนงง แต่เนื้อในของเรื่องจริงๆ กลับมีส่วนนี้แปะ “หัวกับท้ายเรื่อง” ก่อนจบเพียงแค่นั้น ระหว่างทางเรื่องกลับเดินหน้าไปด้วยเรื่องดราม่าปมปัญหาชีวิตใจแตกของผู้หญิงวัย 35 ปี มีสามีกับลูกสาววัยรุ่น 1 คน ที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อของเรื่องราว แบบใส่มายืดยาวพยายามดึงให้เรื่องเหมือนจะมีอะไรมากมาย แต่กลับเต็มไปด้วยบทที่เข้าขั้นแย่ไม่น่าดึงดูด
เรื่องโฟกัสไปที่นางเอกจู่ๆ ก็ไปมีอะไรกับการ์ดหน้าผับที่เจอหน้าครั้งแรกก็ปิ๊งนางเอก พยายามทำดีตามมาช่วยบอกอยากได้หญิงแบบนี้มาเป็นแฟน (ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ามีลูกมีผัวแล้ว) หนังสร้างเรื่องให้หมอนี่เอาใจนางเอกพักเดียวก็ตัดมามีอะไรกันเลย แถมจัดหนักมาเป็นฉาก SEX แบบติดเรต 18 เลย ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เรียกว่าค่อนข้างหมกหมุ่นกับเรื่องเปลือยกายมากมายทั้งเรื่อง หลายส่วนเต็มไปด้วยฉากโป๊เปลือยของทั้งหญิงชาย แบบที่ชายก็พยายามเน้นตูดเน้นเจ้าโลกกันจะๆ ชนิดที่เรียกว่าแกว่งกันอยู่หน้าจอให้ดูกันเลยทีเดียว
เรื่องลับๆ จากคนในเกาะตอนแรกเริ่มเลยทำออกมาโอเคกับการเปิดตัวเพื่อนพี่ชายที่ค้ายาอย่างจำใจ ยามหน้าผับที่ถูกสั่งมาจากเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลในเมืองให้ตามหาความจริงเรื่องนี้ที่พี่ชายนางเอกมาตายในที่ดินของเขา เรื่องถูกโยงเข้ามาหากันเกี่ยวพันกับชีวิตนางเอกที่เริ่มเข้าไปพัวพันกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องหลังเธอมาตามหาพี่ชาย แต่พอเรื่องเดินไปสักพักกลับเลือกเคลียร์ปมเรื่องราวเหล่านั้นอย่างง่ายๆ แบบข้ามตอนมาก็จบเรื่องแหละ แล้วก็ไปวุ่นวายกับเรื่องใจแตกของเธอยาวๆ ก่อนที่ตอนท้ายๆ 9-10 ของซีซั่นจะกลับมาที่ตัวละครตอนแรกอีกที ซึ่งเอาจริงๆ ระหว่างทางเรื่องไม่น่าต้องไปยืดยาวกับเรื่องใจแตกขนาดนั้นก็ได้ เพราะคนดูตั้งใจดูเพราะอยากรู้ว่า อะไรคือความลับของเรื่อง ฆาตกรตัวจริงเป็นใคร มากกว่าจะมาสนใจดราม่าผู้หญิงสูงวัยใจแตกนอกใจแบบนี้ที่น่าเบื่อมาก และไม่ใช่แค่นางเอกคนเดียว ยังมีตัวละครหญิงคนอื่นอีกหลายคนที่วนอยู่กับเรื่องทำนองนี้เช่นเดียวทั้งเรื่อง
หนังมีช่วงแฟลชแบ็คกลับไปยังอดีตเมื่อ 20 ปีก่อนอยู่ตลอดเรื่องเป็นระยะๆ กับนักแสดงวัยรุ่นที่มาเป็นตัวแทนแก๊งพี่ชายของนางเอกในอดีต พร้อมกับตัวภาพเลือกใช้โทนเหลืองซีดๆ มาทำให้รู้ว่านี่อดีต แต่มันกลับไม่เข้ากันเลยเพราะเรื่องย้อนไป 20 ปีก็ตอนช่วงปี 2000 นี้เอง ไม่ได้เก่าขนาดที่ภาพหนังทำให้ดูเหมือนยุคสัก 70s 80s อะไรขนาดนั้น นอกจากจะไม่สมจริงแล้วยังดูประหลาดหลายอย่าง ยกตัวอย่างงานปาร์ตี้มีช่างภาพ แต่กลับไม่มีการถ่ายวิดีโอไว้เลย คือถ้าย้อนไปสักยุคเก่ากว่านั้นก็เป็นไปได้ แต่นี่คือนางเอกต้องมานั่งดูภาพหลักฐานเก่าๆ ซีดๆ ผ่านเครื่องฉายสไลด์เหมือนพวกหนังสงครามโลก ทำให้เห็นเลยว่าทางผู้สร้างเหมือนไม่ได้ทำการบ้านของยุคสมัยให้ดีเลย แค่อยากจะเล่าให้ดูเก่าเพียงเท่านั้น
ตัวเรื่องนี้ถ้าว่ากันจริงๆ คือดูแค่ช่วงต้นสัก 3 ตอนแรกแล้วข้ามไปดูตอน 9-10 ที่เฉลยเรื่องทั้งหมดในอดีตเลยก็ยังรู้เรื่อง เพราะเนื้อหาจริงๆ มีแค่นั้น แต่กลับทำออกมายืดยาวถึง 10 ตอน โดยที่เนื้อเรื่องขาดความน่าสนใจ ไม่มีจุดพีคแน่ชัด ออกแนวล่องลอยเหมือนไม่รู้ว่ากำลังดูไปเพื่ออะไร ทำให้กลายเป็นความน่าเบื่อระหว่างที่ดูมาก ยิ่งความคาดหวังที่ว่ามาจากผู้สร้าง ทรชนคนปล้นโลก แท้ๆ ยิ่งรู้สึกเฟลเข้าไปอีก เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรเหมือนทั้งในทางอารมณ์ความสนุกน่าติดตาม และพล็อตเรื่องชิงไหวพริบตลอดเวลา White Lines เป็นอะไรที่ตรงข้ามกันทุกอย่างมากครับ
ตัวเรื่องจบเฉลยความลับว่าพี่ชายนางเอกตายยังไงในตอนจบ แต่เรื่องก็ตามสูตรมีเปิดปมใหม่ขึ้นมา พยายามไปในทิศทางใหม่ออกแนวให้นางเอกจะไปล้างแค้นจัดการยังไง มีการเปิดเรื่องราววงการยาเสพติดเจ้าพ่อบนเกาะเพิ่มจากในเรื่องที่นำเสนอไว้เพียงนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีความรู้สึกแปลกใหม่น่าติดตามอะไรทั้งสิ้นครับ (ถ้าวัดกันจากกระแสตอนนี้อาจจะไม่ได้ทำต่อด้วยครับ แต่เมื่อเป็นทีมลูกรักสร้างชื่อให้ Netflix ก็ไม่แน่)