เจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงสุดของรัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่า บรรยากาศในทะเลจีนใต้ “ต้องปราศจากการรบกวนจากภายนอก” และวิจารณ์นโยบายอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐ “เป็นภัยความมั่นคง”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ว่านายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศจีน เยือนกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันอังคาร และพบหารือกับนายฮิชามมุดดิน ฮุสเซ็น รมว.การต่างประเทศมาเลเซีย โดยในประเด็นเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ นายหวังกล่าวว่าสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) และรัฐบาลปักกิ่ง ควรร่วมมือกันเพื่อกำจัด “การก่อกวนจากภายนอก”
ทั้งนี้ นายหวังไม่ได้ขยายความว่าสื่อถึงอะไร แต่ขณะเดียวกันยังวิจารณ์แผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ของรัฐบาลวอชิงตัน ที่เป็นการกำหนดบทบาทของสหรัฐ “ในฐานะพันธมิตรที่เป็นมิตรและไว้วางใจได้” ว่าแท้จริงแล้วถือเป็น “ความเสี่ยงด้านความมั่นคง” สำหรับภูมิภาคมากกว่า และเป็นกลยุทธ์สงครามเย็นแบบเก่า ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันทางภูมิศาสตร์การเมืองเท่านั้น
ด้านเจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของมาเลเซียกล่าวว่า ไม่ว่าอย่างไรความขัดแย้งเรื่องทะจีนใต้ต้องคลี่คลายด้วยการเจรจาอย่างสันติ “ตามกรอบของกลไกภายในภูมิภาค” โดยไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติมในประเด็นนี้อีก แต่เผยว่า รัฐบาลปักกิ่งตกลงซื้อน้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย 1.7 ล้านตัน จนถึงปี 2566 และจะเพิ่มการนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มจากมาเลเซียอีก ตลอดจนความช่วยเหลือเรื่องวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19.