รีวิว JT LeRoy เรื่องจริงสุดฉาวสู่หนังอันแสนจืดชืด

จากเรื่องราวจริงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ “ลวงโลก” ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในแวดวงวรรณกรรมอเมริกัน เมื่อ ผู้เขียนที่อ้างชื่อผ่านนามปากกาว่า JT Leroy ได้เขียนหนังสือเพื่อเล่าเรื่องราวจากความทรงจำของ เจที ลีรอย (เจราไมอาห์ “เทอร์มิเนเตอร์” ลีรอย) เด็กหนุ่มที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง หากแต่เกิดจากจินตนาการผสมกับเศษเสี้ยวบางส่วนชีวิตจริงของลอร่า อัลเบิร์ต (ในหนังรับบทโดยลอร่า เดิร์น) นักเขียนหญิงชาวอเมริกัน ซึ่งแต่งหนังสือออกมาผ่านนามปากกาเจที ลีรอย

ในหนังสือเจที ลีรอย คือเด็กหนุ่มที่ถูกแม่ของตัวเองบังคับให้ขายตัวตั้งแต่ยังเด็ก ติดยาเสพย์ติดตั้งแต่อายุ 13 และติดเชื้อ HIV จนเขาพยายามจะฆ่าตัวตาย ชีวิตของเขาเรียกได้ว่าเหมือนโศกนาฏกรรมที่ผูกโยงกับความรุนแรงอันไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อเรื่องราวของเขาถูกถ่ายทอดผ่านหนังสือ เรื่องราวของเขากลายเป็นเหมือนบทละครหลังข่าวที่คนอ่านติดกันงอมแงม จนกระทั่งในปี 2001 เมื่อหนังสือกลายเป็น Best Seller ส่งผลให้ผู้อ่าน อยากจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของเจที ทำให้ ลอร่า ผู้เขียนหนังสือจึงไปร้องขอให้สแวนนาห์ คนู้ป (ในหนังรับบทโดยคริสเทน สจ๊วร์ต) น้องสาวของสามีของเธอให้มาเป็นร่างของเจที เพื่อปรากฏตัวออกสื่อฯ ส่วนลอร่าก็จะผันตัวเองไปเป็นผู้ช่วยและผู้จัดการส่วนตัวที่ชื่อว่าเอมิลี่ เฟรเซอร์ หรือสปีดี้

ด้วยการไม่ทันฉุกคิดหรือมองเหตุการณ์ในระยะยาวของทั้งลอร่าและสแวนนาห์ ว่าสิ่งที่พวกเขาทำอาจจะลุกลาม บานปลายและกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เมื่อการปรากฏตัวในนิตยสารแบบวับๆแวมๆ เพราะเจที มักจะสวมวิกและแว่นตากันแดดอยู่ตลอดเวลาเพื่อปกปิดใบหน้าที่แท้จริง ยิ่งทำให้สื่อมวลชนและคนทั่วไปสงสัยว่าตกลงแล้ว เธอเป็นใคร หน้าตาที่แท้จริงเป็นอย่างไร หรือกระทั่งมีเพศสภาพอะไรกันแน่ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสืบเสาะหาตัวตนลึกๆของเธอ เพราะคนทั่วไปก็มองเจที ไม่ต่างอะไรดาราในโลกมายาที่เป็นแค่เพียง “สีสัน” และเรื่องบันเทิงในชีวิตของผู้อ่าน

น่าเสียดายที่ตัวหนัง JT Leroy เล่าเรื่องราวได้เอื่อยเฉื่อยและปราศจากความน่าติดตามอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่หนังสามารถหยิบจับความน่ากังขาของคาแรกเตอร์ทั้งตัวลอร่าและสแวนนาห์ มาเล่นกับแวดวงสื่อฯ แต่เหมือนหนังก็มัวแต่วนเวียนสำรวจถึงความงุนงนในชีวิตของสแวนนาห์ (เมื่อพิจารณาหน้าตาของนักแสดงอย่างโดยคริสเทน สจ๊วร์ตประกอบ เราก็ยิ่งเชื่อได้ทันทีว่าตัวละครนี้สับสนกับชีวิตของตัวเองจริงๆ) แต่แทนที่หนังจะพัฒนาเรื่องราวให้เดินไปถึงประเด็น การสำรวจเพศภาพและความปรารถนาในชีวิตของสแวนนาห์หรือลอร่าเอง หนังกลับย่ำอยู่กับที่ไปร่วมชั่วโมงกว่า จนกระทั่งการปรากฏตัวขึ้นของตัวละครเอเชีย อาร์เจนโต้ (ไดแอน ครูเกอร์) ถึงเริ่มช่วยทำให้หนัง “มีชีวิตชีวา” ขึ้นมา ไม่เช่นนั้น หนังก็คงมีสภาพเหมือนกราฟชีวิตของคนที่ไม่หายใจแล้วไปยันจบเรื่อง

ที่น่าเสียดายไปกว่านั้นคือ JT Leroy เป็นผลงานของผู้กำกับจัสติน เคลลี่ ผู้เคยทำหนังแฉแวดวงหนังโป้เกย์ในเรื่อง King Cobra ได้อย่างดุเดือด เจ็บแสบและหม่นเศร้าในเวลาเดียวกับกลับฟอร์มตกอย่างมากเมื่อเขากระโดดมาสำรวจความสัมพันธ์แบบ LGBT ที่เป็นตัวละครหญิง ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างแห้งแล้ง ไม่มีชีวิต และจืดชืดไปหมด จนเรารู้สึกว่า เรากลับไปอ่าน “บทสรุป” ของเรื่องราวจากเหตุการณ์จริงในอินเตอร์เน็ต ยังสนุกกว่าเอาเวลามานั่งดูหนังเรื่องนี้เลยครับ

Related posts