เกาหลีเหนือต้องการสันติภาพ แต่ภัยคุกคามยังล้อมรอบ

เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น แถลงต่อสมัชชาประจำปี ยืนยันนโยบายสู่สันติภาพ อย่างไรก็ตาม “ภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์” กลับยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ “ต้องป้องกันตัวเอง”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่านายคิม ซอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีเนื้อหาตอนหนึ่ง ว่ารัฐบาลเปียงยางมีเป้าหมายอันแน่วแน่ ในการสร้างสันติภาพให้โลกปราศจากสงคราม แต่ “ภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์” ที่มีต่อเกาหลีเหนือ “ไม่เคยลดน้อยลง”

ทั้งนี้ ผู้แทนการทูตสูงสุดของเกาหลีเหนือประจำยูเอ็นยืนยันว่า “ฮาร์ดแวร์ทางทหารที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย” ซึ่งยังคงประจำการอยู่บนคาบสมุทรเกาหลี ล้วนพุ่งเป้ามายังเกาหลีเหนือทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเปียงยางจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมตามแบบฉบับของตัวเอง ให้มีความแข็งแกร่งสอดคล้องกับศักยภาพของขุมกำลังที่มีอยู่เช่นกัน

นายคิม ซอง กล่าวด้วยว่า เกาหลีเหนือจำเป็นต้องปฏิรูปเศรษกิจ “เพื่อปกป้องตัวเองและเพื่อความอยู่รอด” แม้ในทางทฤษฎีถือว่าเกาหลีเหนือต้องการความช่วยเหลือจากภายนอกในระดับสูง ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเดือนที่แล้ว เกาหลีเหนือเผชิญกับพายุขนาดใหญ่อย่างน้อย 2 ลูก แต่รัฐบาลเปียงยาง “จะพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด”
 
อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือยืนยันความสนับสนุนของรัฐบาลเปียงยาง ที่มีต่อกระบวนการพหุภาคี เพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเป็นรากฐานมั่นคงให้กับสันติสุขบนโลกได้ เกาหลีเหนือสนับสนุนการดำเนินงานขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) และมีความพร้อมที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน บนพื้นฐานของการให้เกียรติและเคารพซึ่งอธิปไตยของกันและกัน

Related posts