5 แข้งดาวรุ่งที่มีโอกาสอยู่ไล่ล่าแชมป์กับ ลิเวอร์พูล อีกหลายปี ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยแรก และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี สมัยที่ 19 โดยตอนนี้ “หงส์แดง” ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกับแชมป์ในฤดูกาลหน้า ด้วยการเล็งเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ และการดันผู้เล่นดาวรุ่งขึ้นมาเพื่อเป็นแกนหลักของทีม
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน สามารถเปลี่ยนความสงสัยให้เป็นความเชื่อได้อย่างที่ลั่นวาจาเอาไว้ โดยเขาสามารถนำ “เดอะ เร้ดส์” ผงาดคว้าแชมป์เป็นว่าเล่นรวมทั้งโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ พรีเมียร์ลีก ตามลำดับ โดยงานนี้ภารกิจต่อไปของทีมก็คือการที่จะต้องครองอำนาจในวงการลูกหนังเมืองผู้ดีให้ได้
สำหรับการที่จะครองความเป็นจ้าวลูกหนังอังกฤษ ต้องมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่พร้อมทดแทนกันได้ตลอดเวลา โดยงานนี้ คล็อปป์ มีความตั้งใจอย่างชัดเจนว่าจะให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่งได้ขึ้นมาเป็นกำลังหลักผสมผสานกับแข้งชั้นยอดของทีมชุดใหญ่ และแน่นอนว่ามีหลายคนที่เราเคยได้เห็นฝีเท้ากันมาแล้วในซีซั่นนี้
ในส่วนของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ดูเหมือนจะเป็นนักเตะมากประสบการณ์ แต่จริงๆ แล้วเขาอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น และจะเป็นแกนหลักของทีมไปอีกนาน ส่วนอีก 4 คนที่จะมีโอกาสเป็นเสาหลักของทีมในอนาคตมีใครบ้าง ลองมาพิจารณากัน
ต้องบอกว่า “เจ้าหนูเทรนต์” เต็มไปด้วยพรสวรรค์และศักยภาพมากมายที่จะแสดงออกมาให้เห็นกับทัพ “หงส์แดง” ที่สำคัญผลงานของนักเตะในเวลานี้สุดยอดเกินจะบรรยาย ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเพิ่งจะอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น แต่กลายเป็นตัวหลักที่ลิเวอร์พูลขาดไม่ได้เลย
คงไม่ใช่การอวยกันจนเกินไปที่จะยกย่อง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ว่าเป็นแบ็กขวาที่เก่งที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ด้วยคุณภาพของเขาที่สามารถทำอะไรได้มากมายทั้งการเปิดบอลที่สุดแสนแม่นยำ และเล่นลูกตั้งแตะ กับการยิงฟรีคิกที่สุดฉมัง ทำให้ตอนนี้นักเตะเป็นผู้เล่นที่สุดอันตรายมากๆ
ในส่วนของการเติมเกมรุกถือเป็นจุดเด่นของนักเตะ ขณะที่เกมรับอาจจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกันบ้าง อย่างไรก็ตามด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปีเท่านนั้น แน่นอนว่านักเตะยังสามารถพัฒนาได้ในทุกๆ ด้าน และจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงหลายๆ ปีต่อจากนี้
เคอร์ติสโจนส์
“เขาไม่เคยขาดความมั่นใจ” และ “เป็นนักเตะลิเวอร์พูลเต็มร้อยเปอร์เซนต์” ข้อความจากปากของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่กล่าวถึง เคอร์ติส โจนส์ หลังจากที่นักเตะแสดงผลงานชั้นยอดในฤดูกาลนี้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ดีเยี่ยมที่ทำให้เขาคู่ควรกับการได้รับสัญญาฉบับใหม่
สาวก “เดอะ ค็อป” จำได้แม่นยำกับจังหวะการยิงประตูสุดสวยในแมตช์ที่ชนะ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในศึกเอฟเอ คัพ และด้วยศักยภาพของเขาทำให้ คล็อปป์ มักจะให้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ในเกมพรีเมียร์ลีก แม้จะเป็นเพียงตัวสำรอง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับเขา
ที่สำคัญในฤดูกาลหน้า กองกลางวัย 19 ปี จะได้เปลี่ยนหลายเลขเสื้อจากที่ใส่เบอร์ 48 ไปเป็นหมายเลข 17 ตั้งแต่การแข่งขันในฤดูกาล 2020/21 เป็นต้นไป ถือเป็นการเดินตามรอย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดตำนานกองกลางกัปตันทีม ที่เคยสวมเสื้อหมายเลข 17 ช่วงระหว่างปี 2000 ถึง 2004 ก่อนโยกไปสวมเสื้อเบอร์ 8 จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว
เนโก วิลเลี่ยมส์
แบ็กขวาชาวเวลส์ ได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ ให้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ยางอะไหล่ของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในเกมลีกก็ตาม แต่เขาคือผู้เล่นตัวหลักของ “หงส์แดง” ในเกมเอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ
ที่สำคัญนักเตะควรจะขอบคุณ คล็อปป์ ที่ให้โอกาสเขาได้ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก จนทำให้เก็บจำนวนการลงสนามได้มากพอที่จะคว้าเหรียญแชมป์ลีกมาคล้องคอได้สำเร็จในวัยเพียงแค่ 19 ปี ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับนักเตะในการพัฒนาตัวเอง
แน่นอนว่าตำแหน่งของเขาทับกับ “เจ้าหนูเทรนต์” แต่ผลงานในช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายคนมองว่าหาก รุ่นพี่ฟอร์มหลุดมีโอกาสที่จะโดนเสียบแทนทันที นอกจากนี้นักเตะยังสามารถปรับตัวไปเล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายก็ได้ ซึ่งไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นเขาทำหน้าที่นี้ในซีซั่นหน้า
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
“เจ้าหนูหัวจุก” เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก สมัยที่เล่นให้ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ก่อนจะย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ ลิเวอร์พูล และนักเตะพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดี
ในวัยเพียงแค่ 17 ปี เอลเลียตต์ มีโอกาสได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล 8 เกมจากทุกรายการ โดย ปีเตอร์ คราเวียตซ์ ผู้ช่วยโค้ช “หงส์แดง” ยอมรับว่านักเตะรายนี้มีอนาคตสดใสถึงขั้นที่จะก้าวไปเป็นสตาร์ดังของทีม เพียงแต่ขอให้เขาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
จริงๆ แล้วต้องบอกว่าน่าเสียดายสำหรับ เอลเลียตต์ ซึ่งย้ายมาจากฟูแล่ม เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อยู่นิดนึงตรงที่เขาได้ลงเล่น 8 แมตช์ก็จริง แต่ได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก แค่ 2 นัดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะรับเหรียญแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
คี-ยานา ฮูแฟร์
ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญาคว้าตัว คี-ยานา ฮูแฟร์ มาจากศูนย์ฝึกเยาวชนของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม โดยนักเตะได้มีโอกาสลงเล่นเปิดตัวให้กับ ลิเวอร์พูล ในวัยพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น พร้อมกับทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่าแมตช์ปะทะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ ศึกเอฟเอ คัพ
ฮูแฟร์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นเกม เอฟเอ คัพ ให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยวัย 16 ปี กับอีก 354 วัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ ดาวเตะเลือดดัตช์ อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว และเขากำลังพัฒนาฝีเท้าในฐานะเซนเตอร์แบ็กแห่งอนาคตของ “เดอะ เร้ดส์”
นักเตะดาวรุ่งรายนี้มีความนิ่ง และครองบอลได้เนียนเท้า นอกจากนี้ยังเล่นได้อย่างสุขุม ทำให้มีหลายคนนำเขาไปเปรียบเทียบกับ อลัน แฮนเซ่น ตำนานแนวรับ “หงส์แดง” ที่สำคัญการที่ ฮูแฟร์ ได้มีโอกาสเรียนรู้สไตล์การเล่นจาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ยิ่งจะทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก