ขายของออนไลน์ : เทคนิค แอบส่อง Content Facebook คู่แข่ง ด้วย Social Listening Tool

ขายของออนไลน์ : เทคนิค แอบส่อง Content Facebook คู่แข่ง ด้วย Social Listening Tool วิวัฒนาการของเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกเพศทุกวัย ผู้คนเริ่มหันมาใช้งานอินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโลกของ Social Media สำหรับการทำธุรกิจเองก็เช่นเดียวกันหากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังทำธุรกิจอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกในยุคปัจจุบัน ทำเลที่เหมาะสม อาจไม่ใช่แหล่งที่ตั้งของสินค้าอีกต่อไป เพราะทำเลที่เหมาะสมนั้นอาจหมายถึงช่องทางการขายบนโลกโซเชียลมีเดียต่างหาก

ดังนั้น คุณต้องวางแผนกลยุทธ์การขายบนโลกออนไลน์ให้ดี ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงแค่คุณเจ้าเดียวเท่านั้น แต่ยังมีคู่แข่งอีกมากมายจนนับไม่ถ้วน ซึ่งทั้งคุณและคู่แข่งก็ต่างมีกลยุทธ์การตลาดบนโลกออนไลน์ที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่ ๆ คือ ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ อยากให้ธุรกิจของตัวเองประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ หรือสร้างยอดขายได้อย่างถล่มทลาย

ในโลกของการทำธุรกิจทุกคนต่างเข้าใจความหมายนี้ดี คือ “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” สุภาษิตนี้ยังคงใช้ได้ดีเสมอมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน คุณจำเป็นที่จะต้องรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนกลยุทธ์ตอบโต้อย่างทันท่วงที และหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้นั่นก็คือ เครื่องมือที่มีชื่อว่า Social Listening tools นั่นเอง

Social Listening tools คืออะไร ?
Social Listening tools หมายถึง เครื่องมือที่ใช้ดักฟังเสียงของสังคมบนโลกออนไลน์ โดยเครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น รวมถึงรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งด้วย โดยมีขั้นตอนการทำงานคือการ set keyword คำสำคัญ หรือคำที่ต้องการลงไปในโปรแกรม คุณอาจจะ set keyword ชื่อสินค้าของคุณลงไป หลังจากนั้นระบบจะทำการประมวลผลและบ่งบอกให้คุณทราบว่า ผู้บริโภคกำลังพูดถึงสินค้าของคุณเป็นไปในทิศทางบวกหรือลบ และพวกเขามีความรู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์ของคุณ

โดยเครื่องมือนี้จะเข้าไปดักจับ Keyword จากการโพสต์ข้อความ การคอมเม้นหรือการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานา บนโลกโซเชียลมีเดีย ไม่เพียงเท่านั้น Social Listening to ยังสามารถช่วยให้คุณรู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะ set keyword ชื่อสินค้าของคู่แข่งลงไปในโปรแกรม และหลังจากนั้นคุณก็เพียงแค่นั่ง Monitor ดูว่าผู้บริโภคมีความรู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์ของคู่แข่ง เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาและปรับปรุงให้สินค้าของคุณอยู่เหนือคู่แข่งได้นั่นเอง

Content มีความสำคัญอย่างไร?

เมื่อพูดถึงการตลาดบนโลกออนไลน์แน่นอนว่า Content ก็คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญ โดย Content นั้นมีหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น Content ประเภทเนื้อหา รูปภาพ เสียงหรือ Content ที่เกี่ยวกับวีดีโอ ฯลฯ วัตถุประสงค์ของการสร้าง Content ก็คือ การทำให้ผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายเกิดความประทับใจ เป็นการกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกให้พวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ของคุณ โดย Content จะต้องไม่ใช่คอนเทนต์ที่มุ่งเน้นแต่การขายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการแสดงออกถึงความจริงใจต่อผู้บริโภค จนทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ และนำมาสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าในที่สุด ดังนั้น Content ก็เหมือนกับการโฆษณาอย่างหนึ่งแต่เป็นการโฆษณาแฝงเข้าไปใน Content เพื่อให้ดูกลมกลืน

และช่องทางในการกระจาย Content ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือช่องทางของ Facebook เนื่องจาก Facebook เป็นSocial Media ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับช่องทางอื่น ๆ เนื่องจากมีผู้ใช้งานทั่วโลก และมีการอัพเดทข่าวสารแบบเรียลไทม์ทำให้ผู้คนได้เสพสื่อใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ และเป็นสื่อที่ตามกระแสโลกแบบทันสมัยอยู่เสมอ ดังนั้น การสร้าง Content บน Facebook จึงเป็นสิ่งสำคัญ และธุระกิจออนไลน์ก็เลือกที่จะสร้าง Content หรือการโฆษณาบน Facebook มากกว่าช่องทางอื่น ๆ

แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่ธุรกิจของคุณเพียงเจ้าเดียวที่มีการสร้าง Content บน Facebook คู่แข่งของคุณเองก็มีการสร้าง Content เพื่อกระตุ้นยอดขายเช่นเดียวกัน การรู้ความเคลื่อนไหว Content ของคู่แข่ง จึงทำให้คุณสามารถวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดของตนเองได้อย่างเหมาะสม เพราะคุณจำเป็นต้องรู้ความเคลื่อนไหวว่าตอนนี้คู่แข่งกำลังทำอะไร หรือเพื่อดูว่าตอนนี้คู่แข่งกำลังทำสร้าง Content แบบไหน ไม่แน่ว่าพวกเขากำลังมีแคมเปญหรือจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายอยู่ เพื่อหวังจะดึงลูกค้าประจำของคุณไปก็เป็นได้ และเมื่อคุณได้รู้ความเคลื่อนไหวแล้ว คุณสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนกลยุทธ์ตอบโต้อย่างทันท่วงที เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจจะทำให้คุณสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปได้ ในที่สุด

Social Listening tools ไม่เพียงแต่จะใช้วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าหรือความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้เพียงอย่างเดียวแต่ยังสามารถช่วยในการสร้าง Content และที่สำคัญยังช่วยในการส่อง Content ของคู่แข่งได้อีกด้วย เพียงแค่คุณ Set Keyword คำที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคู่แข่งลงไป เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รู้ความเคลื่อนไหวว่า Content ของคู่แข่งว่ามีลักษณะเป็นแบบไหน คู่แข่งใช้กลยุทธ์ใดในการสร้าง Content เพื่อให้คุณได้สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อตอบโต้หรือสร้าง Content ออกมาเพื่อให้โดนใจผู้บริโภคหรือให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจมากกว่า Content ของคู่แข่ง

อย่างเช่น Mandala Analysis ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ Social Listening tools เป็นโปรแกรมที่ทำงานอย่างมีเสถียรภาพ และสามารถที่จะวิเคราะห์หรือแอบส่อง Content ของคู่แข่ง พร้อมสรุปเป็น Report หรือกราฟให้คุณได้เข้าใจได้ง่าย และทำใหคุณสามารถสร้าง Content ที่มีความน่าสนใจได้มากกว่า เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและรักษาลูกค้าไว้ให้ได้มากทที่สุด

Related posts