ค่าเหนื่อยแสนแพง แลกกับการไร้ตัวตนของ “แกเร็ธ เบล”

ความเก่งกาจของ แกเร็ธ เบล ได้กลายเป็นเพียงแค่อดีต เพราะถูกบดบังด้วยอีโก้ หรือจำนวนเงินที่รับอยู่ 6 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ ? เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แกเร็ธ เบล อดีตปีกเบอร์ต้นๆ ของโลก ถูกหั่นชื่อออกจากทีมเรอัล มาดริด ชุดที่พ่ายแพ้ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เลกสอง แถมหลังจากนั้นสื่อต่างประเทศยังเผยอีกว่าเจ้าตัวดันไปออกรอบตีกอล์ฟอย่างสบายใจ จนเรื่องราวเหล่านี้กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง

ปีกเท้าซ้ายวัย 31 ปี หมดอนาคตในถิ่นซานดิเอโก เบอร์นาบิว ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่วันที่ ซีเนดีน ซีดาน ย่างก้าวเข้ามาคุมทีมเรอัล มาดริด ในช่วงท้ายรอบแรก ก่อนอำลาไปพักร้อน และกลับมาคุมทัพอีกครั้ง

คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือเอฟเวอร์ตันคนปัจจุบัน เป็นคนดึงตัวแข้งทีมชาติเวลส์รายนี้ มาจากสโมสรทอตแนม ฮอตสเปอร์ เมื่อปี 2013 ด้วยราคา 100 ล้านยูโร ซึ่งเป็นราคาสถิติโลกในตอนนั้น ก่อนถูกทำลายด้วยค่าตัวของ พอล ป็อกบา ที่ย้ายจาก ยูเวนตุส กลับมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2016 ในราคา 105 ล้านยูโร

ฤดูกาลแรกของเจ้าตัวกับทัพราชันถือว่ายอดเยี่ยม หลังซัดไป 22 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 44 เกม และช่วยให้ทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ สแปนิช ซูเปอร์คัพ จากนั้นฤดูกาลที่สองก็ถือว่าไม่ได้แย่ หลังยิงไป 17 ประตู 12 แอสซิสต์

และแล้วในวันที่ 25 พฤษภาคม ปี 2015 ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด จัดการแถลงปลด อันเชล็อตติ ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช แล้วถึงตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ชุดคว้าแชมป์ยุโรปปี 2005 เข้ามาขัดตาทัพแทนช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนหลีกทางให้ ซีเนดีน ซีดาน ก้าวขึ้นมาทำงานโค้ชเป็นครั้งแรกของอาชีพในวันที่ 4 มกราคม ปี 2016 และนี่คือจุดเปลี่ยนของ ปีกเจ้าของฉายา “พญาวานร” แกเร็ธ เบ

ซีซั่นแรกภายใต้การคุมทีมของซีดาน เบลก็ยังคงยิงประตูกระจายเหมือนเดิม หลังซัดไปถึง 19 ประตู 15 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 31 นัด ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากพอสมควร จนเดือนตุลาคมปี 2016 เขาได้รับการขยายสัญญายาวออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2022 พร้อมรับค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นเป็น 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 600,000 ปอนด์) ซึ่งมากกว่า คริสเตียโน โรนัลโด สตาร์หมายเลข 1 ของทีมในตอนนั้น ที่รับอยู่ 288,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ในช่วงท้ายการคุมทีมของซีดาน ฤดูกาล 2017-18 มาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ด้วยการดับซ่า ลิเวอร์พูล 3-1 ที่ประเทศยูเครน สื่อต่างประเทศเริ่มเล่นข่าวว่าทั้งคู่แตกหักกัน แต่ยังไม่ถึงขั้นหนักหนาอะไร จนข่าวเงียบหายไปเนื่องจากกุนซือรายนี้ประกาศลาออกจากตำแหน่งในซีซั่นนั้นทันที

เบลก่อวีรกรรมในการคุมทีมคำรบสองของซีดาน ด้วยการไปออกรอบตีกอล์ฟ โดยแจ้งว่าป่วย ทำให้ไม่มีชื่ออยู่ในทีมรายการออดี้ คัพ ปี 2019 ที่เยอรมนี แถมทีมดันแพ้ให้กับทีมเก่าของเขาอย่างทอตแนม ฮอทสเปอร์ด้วย ซึ่งพอสื่อเสนอข่าวนี้ออกมา เจ้าตัวก็โดนโจมตีตามระเบียบว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ แทนที่จะมาให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม แต่กลับไปโชว์วงสวิงอย่างสนุกสนาน ทำให้แฟนบอลเริ่มเบื่อหน่าย และไม่ต้องการให้อยู่ในทีมอีกต่อไป

เขายังคงแข็งข้ออย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกมาประกาศว่าจะอยู่ เรอัล มาดริด จนครบสัญญา แม้ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการตีกอล์ฟแทนการลงเล่นในสนามฟุตบอลก็ตาม พร้อมกับขู่ให้ต้นสังกัดจ่ายเงินค่าจ้างจำนวน 17 ล้านยูโร (ราว 625 ล้านบาท) หากต้องการเขี่ยออกจากทีม

ซีดาน เริ่มเอาคืนด้วยการจับเบลเป็นตัวสำรองหลายเกมในฤดูกาล 2019-20 สถิติบ่งบอกว่าเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียง 14 นัด ตลอดทั้งซีซั่น แถมยังถูกตัดชื่อออกจากทีมในนัดสุดท้ายของลาลีกา และ เกมบุกไปพ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บนเวทียูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง

แม้ภายนอกดูเหมือนทั้งคู่จะมีปัญหากัน แต่ดันตรงกันข้ามกับคำพูดของซีดาน ที่เคยออกมาเปิดใจถึงเหตุผลที่ไม่ใช้งานเบลเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า เพราะปัญหาด้านเเท็กติกของทีม “สถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ผมขอยืนยันตรงนี้เลยว่าการที่ผมไม่ใช้งาน ฮาเมส โรดริเกซ และ เบล เพราะเป็นเหตุผลทางด้านเเท็กติกที่วางไว้ โดยไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง หากทั้งสองต้องการอยู่ลงเล่นที่นี่ต่อ พวกเขาต้องแสดงอะไรบางอย่างออกมา”

ตำนานกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสชุดคว้าแชมป์โลก ปี 1998 ยังคงออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นระยะถึงเรื่องของดาวเตะรายนี้ว่าเป็นความต้องการของนักเตะบ้างแหละที่ไม่ขอมีชื่ออยู่ในทีมเอง “เขาเป็นนักฟุตบอลของเรอัล มาดริด และผมเคารพในจุดนี้ เขาไม่ต้องการที่จะลงสนาม” ซีดาน กล่าวก่อนเกมดวลซิตี้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา

แน่นอนว่าอะไรหลายๆ อย่าง ชี้ไปในทางเดียวกันว่าเขาไม่ได้เป็นที่ต้องการของสโมสรอีกต่อไป ซึ่งทัพราชันชุดขาวพร้อมขาย และมีหลายสโมสรให้ความสนใจเบลเข้ามาเหมือนกัน ทั้งในลีกจีน หรือแม้กระทั่งทีมเก่าอย่างทอตแนม ฮอตสเปอร์ แต่ติดปัญหาเดียวคือเจ้าตัวไม่ยอมล้มค่าเหนื่อยลง ทำให้ดีลล่มแบบที่มาดริดคงรู้สึกเสียดาย

ตามจริงอาจได้เห็น เบล กลับมาโลดแล่นในศึกพรีเมียร์ลีกครั้งกับสโมสร นิวคาสเซิล ถ้าหาก โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เทคโอเวอร์สโมสรมูลค่า 300 ล้านปอนด์ ได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามดีลซื้อทีมนั้นได้ล่มลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้การสร้างทีมรวมสุดยอดดาวแห่งวงการฟุตบอลของทัพสาลิกาดงต้องล้มไม่เป็นท่า

ขณะที่ โจนาธาน บาร์เน็ตต์ เอเย่นต์ส่วนตัวก็ออกมาหนุนหลังเต็มที่ ว่าลูกค้าของเขาจะไม่ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด อย่างแน่นอน พร้อมกับอ้างว่าเบลมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตในกรุงมาดริด และยังคงยืนยันให้แน่ชัด ไม่มีทีมไหนกล้าทุ่มเงินมหาศาลสำหรับค่าเหนื่อย 600,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (24 ล้านบาท) อย่างแน่นอน

“แกเร็ธ ชอบใช้ชีวิตที่มาดริดมาก และเขาจะไม่ย้ายไปไหน ถ้าถามว่ามีสโมสรอื่น ๆ สนใจเขาไหมนะเหรอ ผมบอกได้เลยว่ามี แต่ก็ไม่มีทีมไหนสามารถจ่ายค่าจ้างแบบที่เขาได้รับอยู่ตอนนี้ได้เลย”

นั้นเท่ากับว่ามาดริดจะต้องจ่ายค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลให้แก่นักเตะที่ไม่พร้อมลงสนามในทุกๆ สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการสูญเงินแบบไร้ค่าที่หาชมได้อยากในยุคปัจจุบัน ยกตัวอย่างเคสของ อเล็กซิส ซานเชซ ที่รับกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 505,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (20 ล้านบาท) แต่พอไม่มีโอกาสได้ลงสนามในพักหลังๆ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แข้งชาวชิลีก็เลือกทางเดินใหม่ด้วยการย้ายแบบยืมตัวไปที่อินเตอร์ มิลาน และจบอย่างสวยหรูคือการได้สัญญาถาวร 3 ปี กับทัพงูใหญ่ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา

มีข่าวลือออกมาบ้างว่า คีเลียน เอ็มบัปเป หัวหอกตัวเก่งจากสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง อาจเข้ามาแบ่งเบาภาระในแดนหน้าของเรอัล มาดริด แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เนื่องจากเปเรซเคยเผยว่าทีมกำลังอยู่ในช่วงประสบปัญหาทางการเงิน จากผลกระทบที่โควิด-19 ระบาด และยังไม่ถึงเวลาที่นักเตะจะย้ายออกจากทีม

ทำให้หนทางเดียวที่เห็นอยู่ในตอนนี้คือต้องรอให้ เบล หมดสัญญาไปเองเท่านั้น หรือถ้าจะมีทีมมาซื้อคงต้องเป็นสโมสรมหาเศรษฐี เนื่องจากเจ้าตัวหัวเด็ดตีนขาดว่ายังไงก็ไม่ลดค่าเหนื่อย หรืออาจเป็นการปล่อยยืมตัว โดยที่ทัพโลส บลังโกส ต้องช่วยจ่ายค่าเหนื่อยบางส่วนตามที่อดีตประธานสโมสร เรอัล มาดริด ที่มีนามว่า รามอน กัลเดรอน ออกมาแนะนำ

ทั้งนี้ ยังต้องตามดูสถานการณ์ของเบลต่อไป ว่าจะเดินไปทางไหนต่อ เพราะยังเหลือสัญญากับต้นสังกัดอีก 2 ปี หรือเขายอมนอนรับเงินเพื่อหาความสุขที่สนามกอล์ฟ แต่ต้องแลกด้วยการไม่มีตัวตนภายในทีม และอาจทำให้หายหน้าไปจากวงการฟุตบอลในอีกสองปีต่อจากนี้

Related posts