เคยสังเกตไหมว่าแม้แต่คนผอมก็ยังมีเหนียงหรือไขมันใต้คาง?

เคยสังเกตไหมว่าแม้แต่คนผอมก็ยังมีเหนียงหรือไขมันใต้คาง? บางคนพยายามออกกำลังกายเพื่อ ลดไขมันใต้เหนียง แต่จริงๆแล้วมันก็สามารถช่วยได้ส่วนหนึ่ง บางคนแม้ว่าร่างกายจะผอมมากแล้วเปอร์เซ็นต์ Fat ก็น้อยแต่เมื่อก้มหน้าก็ยังคงมีเหนียงอยู่ หลายคนจึงใช้วิธีการพึ่งเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งก็จะมีทั้งการฉีดและการผ่าตัด

วิธีลดเหนียงที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

1. ฉีดสารสลายไขมัน หรือที่เรียกว่าเมโสแฟต ข้อดีคือราคาไม่แพงมากแต่ข้อเสียคือจะต้องฉีดซ้ำบ่อยๆและฉีดในปริมาณที่มากจึงจะเห็นผล ต้องฉีดซ้ำอย่างน้อยเดือนละหนึ่งถึงสองครั้ง

2. ร้อยไหม เพื่อดึงไขมันส่วนเกินและผิวที่หย่อนคล้อย หลังร้อยไหมคนไข้จะมีอาการบวมและเขียวช้ำไปอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์และผลลัพธ์จะอยู่ได้เพียงสามถึงหกเดือนเท่านั้น ต้องคอยมา ร้อยไหมอยู่เรื่อยๆอย่างน้อยปีละหนึ่งถึงสองครั้ง ร้อยไหมนี้เป็นหัตถการที่เจ็บมากเพราะใช้แค่ยาชาบางจุด บางคลินิกใช้แค่ยาทาชาเท่านั้น คนไข้จะรู้สึกเจ็บหลังทำ

3. ฉีดโบทอกซ์ ต้องฉีดซ้ำๆทุกๆหกเดือน แต่ควรฉีดร่วมกับสารฉีดสารสลายไขมันหรือเมโสแฟตด้วย แต่ต้องฉีดซ้ำทุกๆสามถึงหกเดือน

4. ดูดไขมันเหนียง เป็นวิธีที่เห็นผลมากและผลลัพธ์ยาวนาน คือการผ่าตัดเพื่อดูดไขมันบริเวณเหนียงใต้คางออก วิธีการนี้มีราคาที่แพงมากถึง 90,000 ถึง 120,000 บาท ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 30 ถึง 40 นาที โดยใช้ยาสลบแบบหลับ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนานแม้ว่าเราน้ำหนักจะขึ้นแต่นี่หยังบริเวณกรอบหน้าและใต้คางก็ยังไม่หย่อนคล้อย วิธีนี้ผลลัพธ์ค่อนข้างถาวรมากกว่าห้าปี จะให้เห็นผลดียิ่งขึ้นหากหลังทำสวยๆกรรมแล้วคนไข้มีการควบคุมน้ำหนักไม่ให้ไขมันเพิ่มขึ้น

5. V3 Lifting วิธีนี้อาจไม่เคยได้ยินมากนักในคลินิกในไทย แต่แพร่หลายมากในประเทศเกาหลี คือการดูดไขมันกรอบหน้าร่วมกับการ ร้อยไหม จะทำให้ผลลัพธ์ดีมากในกรณีคนที่มีไขมันมากหลังการดูดไขมันอาจทำให้ผิวหย่อนคล้อย การร้อยไหมจะช่วยดึงผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับอีกรอบ วิธีการ 100 ใหม่ร่วมกับการดูดไขมันหน้าให้ผลลัพธ์กับคนไข้ยาวนานมากกว่าห้าปี ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิผลมากที่สุดในตอนนี้ ราคาจะอยู่ที่ 180,000 ถึง 210,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่าหลังทำศัลยกรรมใบหน้าจะมีความเขียวช้ำอย่างน้อยห้าถึงเจ็ดวัน

การ ดูดไขมันเหนียง ถือเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ สำหรับคนไข้ที่มีเวลาพักฟื้นน้อย เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดกระดูกเพราะเป็นผ่าตัดเล็ก และเห็นผลเร็ว บวมช้ำน้อย รวมถึงงบประมาณที่ใช้ก็น้อยกว่าการตัดกระดูกด้วย

Related posts