เมมฟิส เดปาย ยิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 67 ช่วยให้ ทีมชาติฮอลแลนด์ บุกมาเฉือน ทีมชาติโปแลนด์ 1-1 ในการแข่งขัน รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 โซนยุโรปสนามกีฬาแห่งชาติ วอร์ซอ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา ผลนี้ทำให้ฮอลแลนด์มีแต้มนำเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม G ด้วย 17 แต้มจาก 7 นัด ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 0 ยิงได้ 23 ประตู เสียเพียง 4 ประตู และใกล้จะคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโกแล้ว — แค่ได้แต้มเดียวจากสองนัดสุดท้ายก็เพียงพอ
โปแลนด์ขึ้นนำก่อน ฮอลแลนด์แก้ตัวอย่างเหนือชั้น
เกมเริ่มต้นด้วยความตึงเครียด แฟนบอลกว่า 58,000 คนในสนามวอร์ซอ ร้องเพลงสนับสนุนอย่างดังสนั่น ขณะที่ทีมโปแลนด์ซึ่งมีสถิติชนะ 3 จาก 3 นัดเหย้าในรอบคัดเลือก ตั้งใจเปิดเกมรุกตั้งแต่ต้น จนกระทั่งนาทีที่ 32 ได้ประตูขึ้นนำจากลูกโหม่งของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ผู้เล่นตัวหลักที่เพิ่งยิงประตูให้ทีมชนะนิวซีแลนด์และลิทัวเนียในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
แต่ฮอลแลนด์ไม่ได้ตกใจ พวกเขาค่อยๆ ควบคุมจังหวะเกม ใช้ความแม่นยำในการผ่านบอล และในนาทีที่ 67 ทีมที่เคยยิงไป 22 ประตูในหกนัดแรก ก็ได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เมมฟิส เดปาย รับบอลจากด้านขวา ตัดเข้าในแล้วยิงด้วยเท้าซ้ายพุ่งเข้ามุมไกล ผู้รักษาประตูโปแลนด์พยายามปัดแต่ไม่ถึง
ประตูนี้สำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่ช่วยให้ฮอลแลนด์รักษาคะแนนนำไว้ได้ แต่ยังเป็นประตูที่ 12 ของเดปายในรอบคัดเลือก — มากที่สุดในทีม และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดในทุกกลุ่มของยุโรปในรอบนี้
สถิติที่บอกว่า ฮอลแลนด์ไม่ใช่ทีมที่จะยอมแพ้ง่ายๆ
แม้จะไม่ได้ชนะ แต่ผลการแข่งขันนี้คือการยืนยันว่า ทีมชาติฮอลแลนด์ ยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม พวกเขาไม่เคยแพ้ในรอบคัดเลือกเลย แม้จะบุกไปเยือนที่ที่เคยเป็น "สุสานของทีมยุโรป" อย่างวอร์ซอ ซึ่งทีมโปแลนด์เคยชนะทีมใหญ่มาแล้วหลายครั้ง
ในหกครั้งที่ผ่านมาที่สองทีมพบกัน ฮอลแลนด์ชนะ 4 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และไม่เคยแพ้เลย แถมในสี่ในหกนัดนั้น ทั้งสองทีมต่างยิงกันได้รวมกันเกิน 2.5 ลูก — แสดงถึงความดุเดือดที่ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็นการเล่นแบบเปิดเกม
และนี่คือสิ่งที่น่าสนใจ: แม้ในยูโร 2024 ที่ผ่านมา โปแลนด์จะเคยขึ้นนำ 1-0 จากลูกโหม่งของเลวานดอฟสกี แต่ฮอลแลนด์ก็กลับมาชนะ 2-1 ด้วยการยิงของ ดักลาส โคสต้า และ ฟิลิป ซิลเวสเตร์
โปแลนด์ยังมีหวัง แต่ต้องรอผลจากทีมอื่น
สำหรับโปแลนด์ ผลนี้ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นการตอกย้ำว่า ทางรอดของพวกเขาตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเองเพียงอย่างเดียว
ตอนนี้พวกเขาอยู่อันดับสองด้วย 14 แต้ม ตามหลังฮอลแลนด์ 3 แต้ม แต่ต้องเล่นอีกสองนัด: เยือนลิทัวเนีย และเหย้าพบฟินแลนด์ พวกเขาต้องชนะทั้งสองนัด และหวังว่าฮอลแลนด์จะพลาดแต้มอย่างน้อยหนึ่งนัดจากสองนัดสุดท้าย — ซึ่งหมายถึงการต้องเอาชนะมอลตาและลิทัวเนีย แต่ถ้าฮอลแลนด์ชนะหนึ่งนัด โปแลนด์ก็จะต้องเล่นเพลย์ออฟ
ฟินแลนด์อยู่อันดับสามด้วย 10 แต้ม แต่เล่นมากกว่า 1 นัด และมีผลต่างประตูลบถึง -6 — นั่นหมายความว่าแม้จะชนะทุกนัด พวกเขาก็แทบไม่มีทางแซงโปแลนด์ได้
ดังนั้น ความหวังของโปแลนด์จึงอยู่ในมือของทีมอื่น — ถ้าฮอลแลนด์แพ้มอลตา หรือแม้แต่แค่เสมอ โปแลนด์ก็มีโอกาสลุ้นอันดับหนึ่งโดยตรง
ฮอลแลนด์ใกล้ถึงจุดหมาย แต่ยังต้องระวัง
ฮอลแลนด์มีโอกาสสูงมากที่จะผ่านเข้ารอบโดยตรง แต่ไม่ใช่เรื่องแน่นอน
พวกเขาเหลือเกมสองนัด: บุกไปเยือนมอลตา (ทีมอันดับสี่ที่มีแต้มเพียง 5 แต้ม และแพ้มาแล้ว 4 จาก 7 นัด) และเหย้าพบลิทัวเนีย (ทีมที่แพ้ 4 จาก 7 นัด และยิงได้แค่ 3 ประตูทั้งหมดในรอบคัดเลือก)
ถ้าฮอลแลนด์ชนะมอลตา พวกเขาจะมี 20 แต้ม และแน่นอนว่าจะผ่านเข้ารอบทันที
แต่ถ้าพวกเขาพลาดแต้มในเกมนั้น — แม้แค่เสมอ — โปแลนด์จะกลับมาลุ้นอีกครั้ง ดังนั้นแม้จะอยู่ในสถานะที่ดี แต่โค้ช โรนัลด์ โคอีมัน ยังต้องไม่ประมาท
และนี่คือสิ่งที่น่าจับตา: ฮอลแลนด์เคยพลาดการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกในปี 2018 หลังจากที่เป็นจ่าฝูงในรอบคัดเลือก แต่พ่ายแพ้ในเพลย์ออฟ พวกเขาไม่ต้องการให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก
สิ่งที่ต้องจับตาในสองนัดสุดท้าย
สองนัดสุดท้ายของกลุ่ม G จะตัดสินชะตากรรมของทั้งสองทีม
- 17 พฤศจิกายน 2025: ฮอลแลนด์ พบ มอลตา (ที่วิลเลมทูว์)
- 20 พฤศจิกายน 2025: โปแลนด์ พบ ฟินแลนด์ (ที่วอร์ซอ)
- 17 พฤศจิกายน 2025: ลิทัวเนีย พบ ฮอลแลนด์ (ที่วิลเลมทูว์)
- 20 พฤศจิกายน 2025: ลิทัวเนีย พบ โปแลนด์ (ที่วอร์ซอ)
ถ้าฮอลแลนด์ชนะมอลตา พวกเขาจะมี 20 แต้ม และแน่นอนว่าผ่านเข้ารอบทันที
แต่ถ้าพวกเขาแพ้หรือเสมอ มอลตา — ทีมที่เคยชนะฮอลแลนด์ในรอบคัดเลือกปี 2018 — จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้โปแลนด์มีโอกาสกลับมาลุ้นอีกครั้ง
ฟุตบอลโลก 2026 ใกล้เข้ามาแล้ว — ฮอลแลนด์จะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง?
ฮอลแลนด์ไม่ได้เข้าไปเล่นฟุตบอลโลกตั้งแต่ปี 2022 ที่กาตาร์ พวกเขาตกรอบในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ในรอบนี้ พวกเขามีทีมที่สมดุลมาก: มีผู้เล่นรุ่นใหม่อย่าง ดิวี คลูส ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตู, ตัวรุกตัวเก๋าอย่างเดปาย, และกองกลางที่ควบคุมเกมได้ดีอย่าง ฟิลิป ซิลเวสเตร์
หากพวกเขาผ่านเข้ารอบได้โดยตรง นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่ฮอลแลนด์ไม่ต้องผ่านเพลย์ออฟ — และนั่นหมายถึงโอกาสในการเตรียมตัวที่ดีกว่า ไม่ต้องเจอกับความกดดันในเกมตัดสิน
ในขณะเดียวกัน โปแลนด์ก็ยังมีความหวัง แม้จะน้อยลง — และเลวานดอฟสกี วัย 36 ปี อาจยังมีโอกาสเล่นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายในชีวิต
คำถามที่พบบ่อย
ฮอลแลนด์ต้องได้แต้มกี่คะแนนถึงจะผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2026 แบบไม่ต้องเล่นเพลย์ออฟ?
ฮอลแลนด์มี 17 แต้มแล้ว และเหลืออีกสองนัด พวกเขาจะผ่านเข้ารอบโดยตรงทันทีหากได้แต้มเดียวจากสองนัดนี้ — ไม่ว่าจะชนะหนึ่งนัด หรือเสมอสองนัด แต่ถ้าพวกเขาแพ้ทั้งสองนัด แต่โปแลนด์ก็แพ้เช่นกัน ฮอลแลนด์ยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบด้วยคะแนน 17 แต้ม แต่ต้องดูผลต่างประตูที่เหนือกว่า
โปแลนด์ยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบโดยตรงไหม?
ยังมีโอกาส แต่ต้องชนะทั้งสองนัดสุดท้าย และต้องรอให้ฮอลแลนด์เสียแต้มอย่างน้อยหนึ่งนัด ถ้าฮอลแลนด์ชนะมอลตา โปแลนด์จะต้องชนะทั้งสองนัดและมีผลต่างประตูที่ดีกว่า ซึ่งเป็นไปได้ยาก เพราะฮอลแลนด์มีผลต่างประตู +19 ขณะที่โปแลนด์มีแค่ +6
เมมฟิส เดปาย มีบทบาทสำคัญแค่ไหนในรอบคัดเลือกนี้?
เดปายยิงไปแล้ว 12 ประตูในรอบคัดเลือก มากที่สุดในทีม และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดในยุโรป รวมถึงประตูสำคัญที่เสมอโปแลนด์ในเกมนี้ เขาเป็นผู้เล่นที่ฮอลแลนด์พึ่งพาในการตัดสินเกม และถ้าเขาไม่ยิงได้ในเกมนี้ ฮอลแลนด์อาจแพ้และต้องลุ้นเพลย์ออฟ
ทำไมการแข่งขันระหว่างฮอลแลนด์กับโปแลนด์ถึงน่าจับตา?
เพราะทั้งสองทีมเคยแข่งกันในยูโร 2024 และเป็นคู่แข่งที่มีประวัติการพบกันอย่างดุเดือด โดยฮอลแลนด์ไม่เคยแพ้โปแลนด์ในหกนัดหลังสุด แถมยังมีสถิติยิงประตูรวมสูงกว่า 2.5 ลูกในสี่ในหกนัด — แสดงถึงความดุเดือดและคุณภาพของเกมที่สูง
มอลตาและลิทัวเนียจะมีผลต่อผลลัพธ์อย่างไร?
แม้จะเป็นทีมอันดับท้ายของกลุ่ม แต่มอลตาเคยชนะฮอลแลนด์ในรอบคัดเลือกปี 2018 ซึ่งทำให้ฮอลแลนด์ต้องเล่นเพลย์ออฟ ดังนั้นการที่ฮอลแลนด์ต้องไปเยือนมอลตาในนัดสุดท้าย ถือเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม แม้ลิทัวเนียจะอ่อนกว่า แต่หากฮอลแลนด์ประมาท ก็อาจเสียแต้มได้
โรนัลด์ โคอีมัน เตรียมทีมอย่างไรสำหรับสองนัดสุดท้าย?
โคอีมันมีแนวโน้มจะหมุนเวียนผู้เล่นในนัดที่เจอกับมอลตา เพื่อให้ผู้เล่นหลักได้พัก — โดยเฉพาะเดปายที่เล่นมาตลอดทั้งรอบคัดเลือก แต่ในนัดที่เจอลิทัวเนีย เขาอาจส่งผู้เล่นชุดเต็มลงสนามเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้แต้มเต็ม เพราะถ้าพลาดแต้มเดียว โปแลนด์อาจกลับมาลุ้นอีกครั้ง